Post on 15 Dec 2025
หากคิดถึงความสำเร็จของยุคสวิง หลายคนอาจนึกถึงเพียงภาพของนักเต้นเท้าไฟหรือนักดนตรีชื่อดัง แต่เบื้องหลังความสำเร็จของตำนานอย่าง เบนนี่ กูดแมน (Benny Goodman) หรือ บิลลี่ ฮอลิเดย์ (Billie Holiday) นั้น เกิดขึ้นได้จากการมองเห็นพรสวรรค์ของชายคนหนึ่งที่พยายามผลักดันศิลปินในยุคที่การจ้างคนผิวดำยังไม่เป็นที่ยอมรับ มุ่งมั่นที่จะทำให้งานที่เค้าเชื่อนั้นเกิดขึ้น แม้จะต้องควักกระเป๋าตัวเองเพื่อผลิตผลงานให้ศิลปินที่เขาเชื่อมั่นก็ตาม ชายผู้บ้าพลังคนนั้นคือ จอห์น แฮมมอนด์

โฆษณาเบียร์ Guinness ที่ขายความมีวิชั่นของ John Henry Hammond
จอห์น แฮมมอนด์ (เกิด ค.ศ. 1910) เติบโตมาในครอบครัวที่มั่งคั่งแห่งตระกูลแวนเดอร์บิลต์ จุดเปลี่ยนสำคัญของเขาเกิดขึ้นเมื่ออายุ 13 ปี เขาได้เดินทางไปลอนดอนและได้สัมผัสกับดนตรีดิกซีแลนด์แจ๊สเป็นครั้งแรกผ่านวง The Georgians รวมถึงการแสดงของ Sidney Bechet ในโชว์ From Dixie to Broadway ทริปนั้นทำให้เค้าประทับใจกับดนตรีแจ๊สของคนดำมาก เมื่อกลับมาถึงอเมริกา จอห์นพยายามตามหาแผ่นเสียงเพลงดนตรีของคนดำ แต่หาในแมนฮัตตันยังไงก็ไม่เจอ เพราะการเหยียดผิวยังรุนแรงอยู่ในยุคนั้น หลายๆสถานที่ไม่ได้ให้คนขาวกับคนดำไม่สามารถใช้ของร่วมกันได้ ในยุคที่ห้องน้ำมีแยกกันระหว่างคนขาวกับคนดำ เพลงก็มีแยกกันกับคนขาวกับคนดำ จอห์นเลยต้องเดินทางไปยังย่านคนดำอย่างฮาร์เล็ม(Harlem) ถึงจะได้ซื้อแผ่นเสียงที่เค้าต้องการ
ในปี ค.ศ. 1929 จอห์นเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเยล พร้อมกับรับงานเขียนคอลัมน์ให้กับนิตยสาร จนกระทั่งปี 1930 เขาจำเป็นต้องพักการเรียนเนื่องจากป่วยเป็นโรคดีซ่าน (Jaundice) ทว่าด้วยความรู้สึกที่หมดไฟในการเรียน จอห์นจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย และเข้าทำงานในตำแหน่งผู้สื่อข่าวประจำสหรัฐฯ ของนิตยสารดนตรี Melody Maker จากประเทศอังกฤษ พอกลับมาที่อเมริกาก็ควักเงินตัวเอง(ก็บ้านรวย!!) ออกอัลบั้มให้กับ การ์แลนด์ วิลสัน นักเปียโนผิวดำ ซึ่งปรากฏว่าอัลบั้มนั้นดันขายดี ขายทีได้เป็น 1,000 แผ่น ส่งผลให้จอห์นก้าวขึ้นเป็นโปรดิวเซอร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในขณะที่มีอายุเพียง 21 ปี
นับตั้งแต่ประสบความสำเร็จในการโปรดิวซ์อัลบั้มแรกให้แก่ การ์แลนด์ วิลสัน จอห์นก็ได้ก้าวเข้ามาทำหน้าที่แมวมองและโปรดิวเซอร์คนสำคัญในช่วงยุคสวิง (Swing Era) เริ่มตั้งแต่การอำนวยการผลิตอัลบั้มสุดท้ายของ เบสซี สมิธ (Bessie Smith) และโปรดิวซ์งานให้กับ เบนนี กูดแมน โดยเขาเป็นผู้ผลักดันให้เบนนีรับนักดนตรีผิวดำเข้ามาร่วมวง ทั้ง เท็ดดี วิลสัน, ไลโอเนล แฮมป์ตัน, เฟล็ทเชอร์ เฮนเดอร์สัน และ ชาร์ลี คริสเตียน นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้แจ้งเกิดให้กับ บิลลี ฮอลิเดย์ รวมถึงเป็นผู้พา เคานท์ เบซี จากแคนซัสซิตี้มาเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ของเขาที่นิวยอร์ก จนทำให้เคานท์ เบซี ได้มีงานเล่นประจำและโด่งดังในนิวยอร์กในท้ายที่สุด
ความต้องการต่อสู้กับการเหยียดผิวของจอห์นนั้น ผลักดันให้เค้าคิดทำการใหญ่ด้วยการทำคอร์นเสิร์ตที่มี Concept ว่า
An Evening of American Negro Music, “From Spirituals to Swing,”
ความแสบของงานนี้คือการที่เขานำเพลงที่เคยถูกสังคมดูแคลนว่าเป็นของคนผิวดำ ขึ้นไปเล่นในสถานที่อันทรงเกียรติที่สุดของนิวยอร์กอย่าง Carnegie Hall โดยจอห์นได้ขนทัพนักดนตรีผิวดำที่เขาชื่นชอบมารวมตัวกัน เพื่อถ่ายทอดบทเพลงหลากหลายแนว ตั้งแต่Blues, Gospel, Swing, Early Rock ยัน Boogie Woogie นำทีมโดยศิลปินอย่าง Count Basie, Hot Lip Page, Sister Rosetta Tharpe, Helen Humes, Benny Goodman และอื่นๆอีกมากมาย ลองไปฟังดูจากวิดีโอข้างล่างได้เลยครับ

FROM SPIRITUALS TO SWING - THE LEGENDARY 1938 & 1939 CARNEGIE HALL CONCERTS, CD1 (1999)(FULL ALBUM)

FROM SPIRITUALS TO SWING - THE LEGENDARY 1938 & 1939 CARNEGIE HALL CONCERTS, CD2 (1999)(FULL ALBUM)

From Spirituals To Swing - December 24, 1939 - Carnegie Hal
หลังความสำเร็จของคอนเสิร์ตประวัติศาสตร์ From Spirituals to Swing (1938-1939) จอห์น แฮมมอนด์ ยังคงเดินหน้าต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมด้วยการลงทุนเปิดไนต์คลับที่เปิดรับคนทุกสีผิว แม้ในยามที่เขาเข้ารับราชการทหารช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาก็ยังยืนหยัดเผชิญหน้ากับการเลือกปฏิบัติในกองทัพ โดยใช้บทบาทของเขาจัดคอนเสิร์ตที่ทลายกำแพงกั้นระหว่างทหารผิวขาวและผิวดำ
เมื่อหวนคืนสู่ โคลัมเบีย เรคคอร์ดส ช่วงปลายทศวรรษ 1950 เขาปรับเปลี่ยนทิศทางสู่กระแสโฟล์คและร็อคอย่างฉับไว ด้วยสายตาอันเฉียบคม เขาเป็นผู้เจียระไนเพชรเม็ดงามอย่าง พีท ซีเกอร์, บรูซ สปริงส์ทีน, บ็อบ ดีแลน รวมถึง อารีธา แฟรงคลิน ที่เขายกย่องว่าเป็นทายาททางจิตวิญญาณของบิลลี ฮอลิเดย์
ผลงานชิ้นโบแดงคือการนำเพลงของ โรเบิร์ต จอห์นสัน กลับมาเผยแพร่ใหม่ในปี 1961 ซึ่งจุดประกายกระแสบลูส์ไปทั่วโลก แม้เกษียณแล้วเขายังค้นพบ สตีวี เรย์ วอห์น ในช่วงบั้นปลาย จอห์นอุทิศตนให้องค์กร NAACP จนวาระสุดท้ายในปี 1987 เขาจากไปอย่างสงบ... ขณะบทเพลงของ บิลลี ฮอลิเดย์ ศิลปินคู่บุญ ยังคงก้องกังวานอยู่ข้างกาย

Benny Carter, George Benson, Teddy Wilson, Jo Jones, Milt Hinton, Red Norvo, Benny Morten เล่นเพลง John Idea เพื่อ Tribute ให้เกียรติกับ John Henry Hammond

John Hammond Sr. interview - Part 1 - 1970